กรมการศาสนาได้จัดให้มีโครงการประสานความร่วมมือด้านศาสนิกสัมพันธ์แห่งอาเซียน ระหว่างวันที่ 17 – 20 กันยายน 2556 ณ ประเทศสิงคโปร์ เป็นประเทศที่ 3 โดยสำนักจุฬาราชมนตรีได้มอบหมายให้ ดร.วิศรุต เลาะวิถี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี เป็นผู้แทนเข้าร่วมโครงการดังกล่าว คณะประกอบด้วย นายกฤษฏา คงคะจันทร์ รองอธิบดีกรมการศาสนา เป็นหัวหน้าคณะ มีผู้แทนศาสนาพุทธ คริสต์ พราหมณ์-ฮินดู ซิกข์ และเจ้าหน้าที่ของกรมการศาสนา รวมทั้งหมด 13 คน โดยกำหนดกิจกรรมในการเยือนเป็น 2 ลักษณะ คือ

  1. การประชุมเจรจาแสวงหาความร่วมมืองานด้านศาสนาและศาสนิกสัมพันธ์ระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างศาสนิกชนของแต่ละศาสนา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2556 เวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศสิงคโปร์ คณะผู้แทนศาสนิกสัมพันธ์ไทยสัญจรอาเซียน เดินทางเข้าเจรจาหารือกับองค์การศาสนิกสัมพันธ์แห่งประเทศสิงคโปร์ (Inter-Religious Organisation : IRO) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่รวมตัวผู้แทนจาก 10 ศาสนา ได้แก่ พุทธ ฮินดู อิสลาม คริสต์ ซิกข์ เต๋า ยูดาย โซโรอัสเตอร์ เชน และบาไฮ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 และเพิ่งมีการฉลองครบรอบ 60 ปีของการก่อตั้งไปเมื่อปี ค.ศ.2009 โดยองค์การฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสันติสุขและสร้างความสมานฉันท์ของประชาชนที่มีความแตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนาในประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งยังเป็นเครือข่ายของ World Council on Religion and Peace (WCRP) และ Asian Council on Religion and Peace (ACRP) มีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่องระหว่างบรรดาสมาชิกในวาระงานพิธีต่างๆ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เช่น วันชาติสิงคโปร์ เป็นต้น การจัดศาสนิกสัมพันธ์เกม การจัดค่ายเด็กและเยาวชนสมานฉันท์ การเสวนาและบรรยายเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของแต่ละศาสนา ตลอดจนการสังสรรค์ระหว่างสมาชิกในเทศกาลของแต่ละศาสนา ทั้งนี้ องค์การ IRO ได้มีการออกเอกสารร่วม เพื่อความสมานฉันท์ทางศาสนา (Declaration of Religious Harmony) โดยมีเนื้อหาสำคัญที่กล่าวถึงความสมานฉันท์ทางศาสนาเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการสร้างสันติสุข ความเจริญก้าวหน้า และความมั่งคั่งของประเทศที่มีเชื้อชาติและศาสนาที่หลากหลาย ดังนั้น ประเทศสิงคโปร์จึงเสริมสร้างความสมานฉันท์ด้วยการสร้างความเข้าใจอันดี มีความอดทน และการให้อภัยซึ่งกันและกัน รวมทั้งการเคารพในสิทธิและเสรีภาพของการนับถือศาสนาและความเชื่อที่แตกต่างกัน และมีการให้เกียรติซึ่งกันและกันและกลุ่มคนหรือชุมชนที่มีความแตกต่างทางศาสนา โดยถือว่าเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข





  2. เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2556 เวลา 14.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศสิงคโปร์ คณะผู้แทนศาสนิกสัมพันธ์ไทยสัญจรอาเซียน เดินทางเข้าเจรจาหารือกับองค์กรที่มีชื่อว่า The Inter-Racial and Religious Confidence Circles หรือ IRCC ซึ่งได้รับการจัดตั้งเป็นองค์กรขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.2002 ปัจจุบัน อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม ชุมชน และเยาวชน แห่งประเทศสิงคโปร์ เพื่อการสร้างเครือข่ายแห่งความเป็นมิตรและความไว้วางใจของประชาชนในประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นชนชาติใดหรือนับถือศาสนาใด ทั้งนี้ IRCC ยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมโยงความเข้าใจระหว่างผู้นำชุมชนและผู้นำของแต่ละศาสนา ความร่วมมือการสร้างเครือข่ายความผูกพันทางสังคมระดับประเทศ รวมทั้งช่วยคลี่คลายปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดหรือขาดความเคารพในความแตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนา ซึ่งอาจขยายผลกลายเป็นวิกฤติทางความคิดของผู้คนในสังคมได้ โดย IRCC ได้ริเริ่มโครงการ Community Engagement Program (CEP) เพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามความมุ่งหมายขององค์กร เช่น การจัดงาน Run with Faith 2013 หรือ The IRCC Family Day 2013 หรือ Interfaith Visit สถานที่สำคัญทางศาสนาต่างๆ รวมทั้งการจัด Workshop ด้านต่างๆ อาทิ ด้าน Social Media Skills, Cross Cultural Communication, Ground Sensing ตลอดจนการพูดคุยและเสวนาในประเด็นต่างๆ ระหว่างผู้นำชุมนและผู้นำทางศาสนา เป็นต้น ทั้งนี้ คณะผู้แทนศาสนิกสัมพันธ์ไทยสัญจรอาเซียน ยังได้มีโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมชมมัสยิด Jamae Chulia ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชุมชนชาวจีน (China Town) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ทางศาสนาที่แตกต่างกันอีกด้วย
    จากการเยือนเพื่อประสานความร่วมมือด้านศาสนิกสัมพันธ์แห่งอาเซียนครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าจะเป็นการประสานความร่วมมือด้านกิจกรรมด้านศาสนิกสัมพันธ์แห่งอาเซียนได้เป็นไปด้วยดี และถือเป็นแนวทางในการเจรจาหารือกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประชาคมอาเซียน ต่อไป