แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี ----------------------------- ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีความตึงเครียดและมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้มีการทำร้ายและฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ตลอดจนบุคคลผู้ครองตนเป็นพระหรือนักบวช สำนักจุฬาราชมนตรีมีความกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในลักษณะดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง และเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ทุกฝ่ายจะต้องรีบยุติโดยทันที เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายสายสัมพันธ์อันดีงามของพี่น้องชาวมุสลิมและชาวพุทธที่อยู่ร่วมกันในพื้นที่ด้วยความปกติสุขมาเป็นเวลายาวนาน สำนักจุฬาราชมนตรีใคร่ขอย้ำว่า “อิสลาม” เป็นศาสนาที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดในเรื่องความรัก ความเมตตา ควบคู่กับความยุติธรรม ดังนั้น ผู้ที่ศรัทธาในศาสนาอิสลามจำเป็นต้องอำนวยความยุติธรรมต่อบรรดาผู้ศรัทธา เพื่อนมนุษย์ และสรรพสิ่งรอบตัว แม้นว่าในบางสถานการณ์ที่ชาวมุสลิมอาจถูกทดสอบจากการกระทำที่ไร้ความยุติธรรม แต่อิสลามกลับสอนให้ผู้ศรัทธาตอบแทนความอธรรม ด้วยความดีงาม ดังที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ทรงตรัสไว้ใน อัล-กุรอ่าน ความว่า “ความดีและความเลวนั้นย่อมไม่เท่าเทียมกัน เจ้าจงตอบโต้ (การกระทำที่เลวร้ายของผู้อื่น) ด้วยสิ่งที่ "จงเรียกร้องสู่แนวทางแห่งพระเจ้าของสูเจ้าโดยสุขุมและการตักเตือนที่ดี และจงโต้แย้งพวกเขาด้วยสิ่งที่ ดังนั้น ผู้ที่เป็นมุสลิมย่อมไม่อาจที่จะระบายความแค้น หรือกระทำการตอบโต้ต่อผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีส่วน “ผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีเพื่ออัลลอฮฺ เป็นพยานด้วยความเที่ยงธรรม และจงอย่าให้การเกลียดชังพวกหนึ่งพวกใดทำให้พวกเจ้าไม่ยุติธรรม จงยุติธรรมเถิด มันเป็นสิ่งใกล้ความยำเกรงยิ่งกว่า และพึง โดยนัยนี้ หากมุสลิมกระทำการที่อธรรมกับผู้บริสุทธิ์โดยไม่คำนึงถึงความยุติธรรมตามหลักคำสอนของ สำนักจุฬาราชมนตรีจึงใคร่ขอให้มุสลิมทุกคนคำนึงถึงหลักธรรมคำสอนของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงให้ศาสนาอิสลามและนบีมุฮัมหมัด (ซ.ล.) มายังโลกนี้ เพื่อเป็นความเมตตาแห่งมนุษยชาติทั้งมวล ดังนั้น สำนักจุฬาราชมนตรี ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ |
แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง การทำร้ายและฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์